ยินดีต้อนรับสู่บล็อกของ ด.ช.อุสมาน โชคเกื้อครับ

วันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2558

บทเสภาสามัคคีเสวก ตอน วิศวกรรมา


๏   อันชาติใดไร้ศานติสุขสงบ  ต้องมัวรบราญรอนหาผ่อนไม่  
ณ ชาตินั้นนรชนไม่สนใจ  ในศิลปะวิไลละวาดงาม ๚  
๏   แต่ชาติใดรุ่งเรืองเมืองสงบ  ว่างการรบอริพลอันล้นหลาม  
ย่อมจำนงศิลปาสง่างาม  เพื่ออร่ามเรืองระยับประดับประดา ๚  
๏ อันชาติใดไร้ช่างชำนาญศิลป์  เหมือนนารินไร้โฉมบรรโลมสง่า 
ใครใครเห็นไม่เป็นที่จำเริญตา  เขาจะพากันเย้ยให้อับอาย ๚  
๏   ศิลปกรรมนำใจให้สร่างโศก  ช่วยบรรเทาทุกข์ในโลกให้เหือดหาย  
จำเริญตาพาใจให้สบาย  อีกร่างกายก็จะพลอยสุขสราญ ๚  
๏ แม้ผู้ใดไม่นิยมชมสิ่งงาม  เมื่อถึงยามเศร้าอุราน่าสงสาร  
เพราะขาดเครื่องระงับดับรำคาญ  โอสถใดจะสมานซึ่งดวงใจ ๚  
๏   เพราะการช่างนี้สำคัญอันวิเศษ  ทุกประเทศนานาทั้งน้อยใหญ่  
จึงยกย่องศิลปกรรม์นั้นทั่วไป  ศรีวิไลวิลาศดีเป็นศรีเมือง ๚  
๏    ใครดูถูกผู้ชำนาญในการช่าง  ความคิดขวางเฉไฉไม่เข้าเรื่อง  
เหมือนคนบ้าคนไพรไม่รุ่งเรือง  จะพูดด้วยนั้นก็เปลืองซึ่งวาจา ๚  
๏ แต่กรุงไทยศรีวิไลทันเพื่อนบ้าน  จึ่งมีช่างชำนาญวิเลขา  
ทั้งช่างปั้นช่างเขียนเพียรวิชา  อีกช่างสถาปนาถูกทำนอง ๚  
๏    ทั้งช่างรูปพรรณสุวรรณกิจ ช่างประดิษฐ์รัชดาสง่าผ่อง  
อีกช่างถมลายลักษณะจำลอง  อีกช่ำชองเชิงรัตนะประกร ๚ 
๏    ควรไทยเราช่วยบำรุงวิชาช่าง  เครื่องสำอางแบบไทยสโมสร  
ช่วยบำรุงช่างไทยให้ถาวร  อย่าให้หย่อนกว่าเขาเราจะอาย ๚  
๏    อันผองชาติไพรัชช่างจัดสรร เป็นหลายอย่างต่างพรรณเข้ามาขาย  
เราต้องซื้อหลากหลากและมากมาย  ต้องใช้ทรัพย์สุรุ่ยสุร่ายเป็นก่ายกอง ๚  
๏   แม้พวกเราชาวไทยตั้งใจช่วย  เอออำนวยช่างไทยให้ทำของ  
ช่างคงใฝ่ใจผูกถูกทำนอง  และทำของงามงามขึ้นตามกาล ๚  
๏   เราช่วยช่างเหมือนอย่างช่วยบ้านเมือง  ได้ประเทืองเทศไทยอันไพศาล  
สมเป็นเมืองใหญ่โตมโหฬาร  พอไม่อายเพื่อนบ้านจึ่งจะดี ๚

2 ความคิดเห็น:


  1. ๏ อันชาติใดไร้ศานติสุขสงบ ต้องมัวรบราญรอนหาผ่อนไม่
    ณ ชาตินั้นนรชนไม่สนใจ ในศิลปะวิไลละวาดงาม ๚
    ๏ แต่ชาติใดรุ่งเรืองเมืองสงบ ว่างการรบอริพลอันล้นหลาม
    ย่อมจำนงศิลปาสง่างาม เพื่ออร่ามเรืองระยับประดับประดา ๚
    ๏ อันชาติใดไร้ช่างชำนาญศิลป์ เหมือนนารินไร้โฉมบรรโลมสง่า
    ใครใครเห็นไม่เป็นที่จำเริญตา เขาจะพากันเย้ยให้อับอาย ๚
    ๏ ศิลปกรรมนำใจให้สร่างโศก ช่วยบรรเทาทุกข์ในโลกให้เหือดหาย
    จำเริญตาพาใจให้สบาย อีกร่างกายก็จะพลอยสุขสราญ ๚
    ๏ แม้ผู้ใดไม่นิยมชมสิ่งงาม เมื่อถึงยามเศร้าอุราน่าสงสาร
    เพราะขาดเครื่องระงับดับรำคาญ โอสถใดจะสมานซึ่งดวงใจ ๚
    ๏ เพราะการช่างนี้สำคัญอันวิเศษ ทุกประเทศนานาทั้งน้อยใหญ่
    จึงยกย่องศิลปกรรม์นั้นทั่วไป ศรีวิไลวิลาศดีเป็นศรีเมือง ๚
    ๏ ใครดูถูกผู้ชำนาญในการช่าง ความคิดขวางเฉไฉไม่เข้าเรื่อง
    เหมือนคนบ้าคนไพรไม่รุ่งเรือง จะพูดด้วยนั้นก็เปลืองซึ่งวาจา ๚
    ๏ แต่กรุงไทยศรีวิไลทันเพื่อนบ้าน จึ่งมีช่างชำนาญวิเลขา
    ทั้งช่างปั้นช่างเขียนเพียรวิชา อีกช่างสถาปนาถูกทำนอง ๚
    ๏ ทั้งช่างรูปพรรณสุวรรณกิจ ช่างประดิษฐ์รัชดาสง่าผ่อง
    อีกช่างถมลายลักษณะจำลอง อีกช่ำชองเชิงรัตนะประกร ๚
    ๏ ควรไทยเราช่วยบำรุงวิชาช่าง เครื่องสำอางแบบไทยสโมสร
    ช่วยบำรุงช่างไทยให้ถาวร อย่าให้หย่อนกว่าเขาเราจะอาย ๚
    ๏ อันผองชาติไพรัชช่างจัดสรร เป็นหลายอย่างต่างพรรณเข้ามาขาย
    เราต้องซื้อหลากหลากและมากมาย ต้องใช้ทรัพย์สุรุ่ยสุร่ายเป็นก่ายกอง ๚
    ๏ แม้พวกเราชาวไทยตั้งใจช่วย เอออำนวยช่างไทยให้ทำของ
    ช่างคงใฝ่ใจผูกถูกทำนอง และทำของงามงามขึ้นตามกาล ๚
    ๏ เราช่วยช่างเหมือนอย่างช่วยบ้านเมือง ได้ประเทืองเทศไทยอันไพศาล
    สมเป็นเมืองใหญ่โตมโหฬาร พอไม่อายเพื่อนบ้านจึ่งจะดี

    ตอบลบ