ยินดีต้อนรับสู่บล็อกของ ด.ช.อุสมาน โชคเกื้อครับ

วันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2558

บทเสภาสามัคคีเสวก ตอน สามัคคีเสวก



ประการหนึ่งพึงคิดในจิตมั่น          ว่าทรงธรรม์เหมือนบิดาบังเกิดหัว
ควรเคารพยำเยงและเกรงกลัว          ประโยชน์ตัวนึกน้อยหน่อยจะดี

หมายถึง สิ่งหนึ่งที่เราควรมีไว้ในจิตใจคือ พระเจ้าแผ่นดินเปรียบเสมือนพ่อบังเกิดเกล้าที่เราควรเกรงใจและเคารพนับถือ เราต้องไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากเกินไป 
-----------------------------------------------------------
ควรนึกว่าบรรดาข้าพระบาท          ล้วนเป็นราชบริพารพระทรงศรี
เหมือนลูกเรืออยู่ในกลางหว่างวารี           จำต้องมีมิตรจิตรสนิทกัน

หมายถึง ควรนึกว่าพวกเราก็เป็นข้ารับใช้ของพระเจ้าแผ่นดินคนหนึ่งเหมือนลูกเรือที่ อยู่ในเรือกลางทะเลจำเป็นที่จะต้องมีความสามัคคีต่อกันและกัน 
----------------------------------------------------------
แม้ลูกเรือเชื่อถือผู้เป็นนาย         ต้องมุ่งหมายช่วยแรงโดยแข็งขัน
คอยตั้งใจฟังบังคับกัปปิตัน          นาวานั้นจึงจะรอดตลอดทะเล

หมายถึง ถ้าลูกเรือเชื่อฟังกัปตันก็จะต้องช่วยกัปตันอย่างแข็งขัน ต้องตั้งใจฟังคำสั่งของกัปตันเรือก็จะรอดไปถึงจุดหมาย 
------------------------------------------------------
แม้ลูกเรืออวดดีมีทิฐิ         และเริ่มริเฉโกยุ่งโยเส           
เมื่อคลื่นลมแรงจัดซัดโซเซ         เรือจะเหล่ระยำคว่ำไป

หมายถึง แต่ถ้าลูกเรือไม่เชื่อฟังกัปตันและเริ่มแตกคอกัน เวลาคลื่นลมแรงเรือก็จะโคลงเคลง ต่อมาเรือก็จะจม 
---------------------------------------------------
แม้ต่างคนต่างเถียงเกี่ยงแก่งแย่ง          นายเรือจะเอาแรงมาแต่ไหน
แม้ไม่ถือเคร่งคงตรงวินัย          เมื่อถึงคราวพายุใหญ่จะครวญคราง

หมายถึง ถ้าลูกเรือมัวแต่ทะเลาะกัน กัปตันก็จะไม่มีกำลังมาต่อสู้ ถ้าไม่เคร่งครัดต่อกฏระเบียบเวลาที่เกิดภัยอะไรขึ้นจะเดือดร้อน
---------------------------------------------------------
นายจะสั่งสิ่งใดไม่เข้าจิต          จะต้องติดตันใจให้ขัดขวาง
จะยุ่งแล้วยุ่งเล่าไม่เข้าทาง          เรือก็คงอับปางกลางสาคร

หมายถึง กัปตันสั่งอะไรก็ไม่ฟังพอถึงเวลาก็มีข้อขัดแย้งต่อมาก็จะเกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้น ในที่สุดเรือก็จะล่มกลางทะเล 
---------------------------------------------------------
ถึงเสวีที่เป็นข้าฝ่าพระบาท          ไม่ควรขาดความสมัครสโมสร
ในพระราชสำนักพระภูธร          เหมือนเรือแล่นสาครสมุทรไทย

หมายถึง ถึงจะเป็นข้ารับใช้ของพระเจ้าแผ่นดินก็ไม่ควรขาดความสามัคคีปรองดองกัน เหตุการณ์ในพระราชสำนักก็เปรียบเสมือนเรือที่แล่นอยู่ตามทะเลมหาสมุทร 
----------------------------------------------------------
เหล่าเสวกตกที่กะลาสี          ควรคิดถึงหน้าที่นั้นเป็นใหญ่
รักษาตนเคร่งคงตรงวินัย          สมานใจจงรักพระจักรี

หมายถึง เหล่าข้าราชการในราชสำนักก็เหมือนเป็นกะลาสีควรให้ความสำคัญกับหน้าที่ที่ ต้องทำเป็นหลัก ปฏิบัติตนตามกฏตามระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัดและสามัคคีจงรักภักดีต่อพระ เจ้าแผ่นดิน 
-------------------------------------------------------
ไม่ควรเลือกที่รักมักที่ชัง          สามัคคีเป็นกำลังพลังศรี
ควรปรองดองในหมู่ราชเสวี           ให้สมที่ร่วมพระเจ้าเราองค์เดียว

หมายถึง ไม่ควรแยกฝ่ายเลือกที่จะเคารพเชื่อฟังใคร ควรที่จะสามัคคีปรองดองกันในหมู่ข้าราชการเพื่อเป็นพลังในการทำความดีให้สม กับที่มีพระเจ้าแผ่นดินพระองค์เดียวกัน

67 ความคิดเห็น:

  1. ัหืัไีืีไ่รไหึิักิักิี่ำค่ไค่คไ่คๆรค/่ีไัห ั่ๆครๆตรๆตๆืีไืั้หึ้ไคีี/

    ตอบลบ
  2. สวยงาม. ปั่นดิครับ. รอไร. 2/1

    ตอบลบ
  3. ควยกาก(โทษค่ะ)ลูกอี่จึ๊ก

    ตอบลบ
  4. โอ้ตัวหนังสืออ่านยากแท้

    ตอบลบ
  5. ดีมากค่ะและขอขอบคุณน่ะค่ะ

    ตอบลบ
  6. ดีมากเลยง่ะ ปั่นงานวนปายยยย~
    มีครบทุกคำเลยดีจิมๆ🙏

    ตอบลบ
  7. ดีมากเลย
    ปั่นงานวนไป
    ม.2/1

    ตอบลบ
  8. จีดกากจัดสัมผัสได้

    ตอบลบ
  9. ปั่นไปอย่ามั่วอ่านคอมเมนต์

    ตอบลบ
  10. สายชิว มาพูดมากอะ

    ตอบลบ
  11. พวกเอ๋อ ตลาดล่างว่ะ พวกที่ด่าอ่ะ

    ตอบลบ
  12. เห้ย มาเร็วจังว่ะเพื่อน

    ตอบลบ
  13. เออ ไปคุยกันในไป๊ อีดอก

    ตอบลบ
  14. เย็ดเข้ เท่จ๊าดดดดด

    ตอบลบ
  15. ไม่ระบุชื่อ27 พฤษภาคม 2563 เวลา 19:46

    ว่าทรงงธรรม์เหมือนบิดาบังเกิดหัว ควรเคารพยำเยงและเกรงกลัว หมายความว่า

    ตอบลบ
  16. วาตานาเบะอาริกาโต๊ะ

    ตอบลบ
  17. ปั่นงานยาวไปครับ

    ตอบลบ
  18. ด่าพ่อด่าอะไรกันบาปกรรมนะเอาถึงพ่อเลยหรอ

    ตอบลบ