แต่หากประเทศใด(ชาติใด)บ้านเมืองสงบสุขปราศจากสงคราม ประชาชนก็จะทำนุบำรุงการศิลปกรรมทั้งปวงให้เจริญรุ่งเรือง
ชาติใดที่ปราศจากช่างศิลป์ ก็เปรียบเสมือนหญิงสาวที่ไม่มีความงามไม่เป็นที่ต้องตาต้องใจของใคร มีแต่จะถูกเยาะเย้ยให้ได้อาย อันศิลปกรรมนั้นช่วยทำให้จิตใจคลายเศร้า ช่วยทำให้ความทุกข์หมด ทำให้จิตใจของเรามีความสุขซึ่งจะส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงไปด้วย(ทำให้สุขภาพ ใจและกายดี) ตรงกันข้าม หากใครไม่เห็นคุณค่าความงามของศิลปะ เมื่อเผชิญความทุกข์ก็ไม่มีสิ่งใดมาเป็นยาช่วยรสมานบาดแผลของจิตใจ เขาเหล่านั้นจึงเป๋นคนที่น่าสงสารยิ่งนัก เพราะความรู้ทางช่างศิลป์สำคัญเช่นนี้ นานาประเทศจึงนิยมยกย่องคุณค่าของศิลปะและความสามารถเชิงช่างของช่างศิลป์ ว่าเป็นเกียรติยศ ความรุ่งเรืองของแผ่นดิน คนที่ไม่เห็นคุณค่าของศิลปะก็เหมือนคนป่าคนดง ป่วยการอธิบาย พูดด้วยก็เปลืองน้ำลายเปล่า
แต่ประเทศไทยของเรานั้นเห็นคุณค่าของงานช่างศิลป์ เช่น ช่างปั้น ช่างเขียน ช่างสถาปัตย์ ช่างทองรูปพรรณ ช่างเงิน ช่างถมและช่างอัญมณี ซึ่งเราควรสนับสนุนงานช่างศิลป์ไทยให้ก้าวหน้ารุ่งเรืองอย่าให้ด้อยน้อย หน้ากว่านานาประเทศ ชาวต่างชาติเมื่อมาเยือนเมืองไทยจะได้ซ้อหางานศิลปะเหล่านี้กลับไปเพราะเห้น ในคุณค่า การช่วยสนับสนุนงานศิลปกรรม และส่งเสริมช่างศิลปฺไทยให้สร้างสรรงานศิลปะขึ้นจึงเท่ากัยได้ช่วยพัฒนา ชาติ ให้เจริญพัฒนาอย่าถาวร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น